10 หลักการวิเคราะห์ความผิดพลาดในการเทรด

ไม่ว่าจะเป็นเทรดเดอร์มือใหม่หรือเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ ทุกคนมีความผิดพลาดในการเทรดด้วยกันทั้งสิ้น การที่จะยกระดับการเทรดของตัวเองให้ดีขึ้น เทรดเดอร์ต้องรู้จักเรียนรู้จากข้อผิดพลาด นำมาแก้ไขและปรับปรุง บทความนี้จะพาเพื่อนๆไปเรียนรู้เกี่ยวกับข้อผิดพลาดในการเทรด และวิธีการปรับปรุงแก้ไขข้อผิดพลาดเพื่อพัฒนาการเทรดให้ดีขึ้นผ่านหัวข้อดังต่อไปนี้

  • 10 ข้อผิดพลาดของเทรดเดอร์มือใหม่
  • 10 หลักการวิเคราะห์ข้อผิดพลาดเพื่อให้การเทรดดีขึ้น

รวม 10 ข้อผิดพลาดของเทรดเดอร์มือใหม่

1. ไม่ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการเทรด

  • เทรดเดอร์ที่ยังไม่มีประสบการณ์หรือเพิ่งเข้ามาในตลาด หวังจะเริ่มต้นทำกำไรโดยทันที ทำให้พวกเขาเริ่มต้นเทรดโดยมองข้ามความรู้พื้นฐานของการเทรด ตัวอย่างเช่น ความรู้เกี่ยวกับตลาด ความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการเทรด ความรู้เกี่ยวกับเครื่องมือในการเทรด เป็นต้น

2. ไม่วางแผนการเทรด

  • เทรดเดอร์มือใหม่มักจะมีข้อผิดพลาดคือการไม่วางแผนการเทรด เทรดตามความรู้สึก เทรดตามมุมมองของบุคคลที่มีประสบการณ์ หรือความเห็นในสื่อออนไลน์
  • เทรดเดอร์ที่ไม่มีแผนการเทรดอาจจะทำกำไรได้ในระยะสั้น แต่ในระยะยาวแล้วอาจจะไม่สามารถยืนระยะการเป็นเทรดเดอร์ได้ และไม่มีสถิติมาวัดผลการพัฒนา

3. โฟกัสที่ “กำไร”  แต่ไม่โฟกัส “กระบวนการ”

  • เทรดเดอร์มือใหม่มักจะโฟกัสการทำกำไร จึงหากลยุทธ์การเทรดทำกำไรได้เยอะ แต่มักจะลืมกระบวนการที่ทำให้ประสบความสำเร็จในการเทรด ไม่ว่าจะเป็น การทำตามแผน การจัดการความเสี่ยง การบริหาร Position Sizing  เป็นต้น

4. ไม่ BackTest ระบบเทรด

  • เทรดเดอร์มือใหม่เมื่อได้กลยุทธ์มากลยุทธ์หนึ่ง จะเริ่มต้นเทรดด้วยเงินจริงทันที ไม่ได้มีการทดสอบ-กลยุทธ์เสียก่อน ทำให้ไม่ทราบถึงข้อบกพร่อง และสถิติของระบบ
  • การไม่ทดสอบระบบ (Backtest) ทำให้เกิดปัญหาหลายอย่างเช่น ความรู้สึกไม่มั่นใจในระบบเทรด มีการเปลี่ยนระบบเทรดไปมาอยู่บ่อยครั้งเพื่อหาระบบที่ดีที่สุด และทำให้เกิดปัญหาในการใช้งาน EA อีกด้วย

5. เปลี่ยนกลยุทธ์การเทรดบ่อย

  • เทรดเดอร์มือใหม่จะพยายามหากลยุทธ์ที่ดีที่สุด เพื่อที่จะทำกำไรจากตลาด แต่เมื่อกลยุทธ์นั้นคาดการณ์ตลาดผิด ก็มีการเปลี่ยนกลยุทธ์ไปเรื่อย ๆ ซึ่งทำให้เทรดเดอร์ไม่มีกลยุทธ์ที่ชัดเจน ไม่รู้จักกลยุทธ์อย่างลึกซึ้ง
  • การเปลี่ยนกลยุทธ์บ่อย  ทำให้เทรดเดอร์จำเป็นที่จะต้องศึกษากลยุทธ์ตั้งแต่ศูนย์ ซึ่งต้องใช้เวลาและความอดทน ที่สำคัญยังเสียโอกาสในการทำกำไรไป

6. มองข้ามการเทรดบัญชี Demo

  • การเทรดในบัญชี Demo  ไม่ได้กำไรจริง ไม่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับตลาด ไม่มีอารมณ์ความรู้สึก เทรดเดอร์ที่เข้ามาในตลาดใหม่ๆ จึงละเลยในการเทรด Demo ไป ทั้ง ๆ ที่การเทรด Demo มีข้อดีมากมาย

7. ไม่จดบันทึกการเทรด

  • การจดบันทึกการเทรดเป็นสิ่งที่เทรดเดอร์มือใหม่มักละเลย
  • เทรดเดอร์ที่ไม่มีการจดบันทึกการเทรด จะไม่รู้ว่าตนพัฒนาการเทรดได้ดีมากน้อยเพียงใด ไม่รู้สถิติต่าง ๆ ของระบบเทรด
  • การไม่มีสถิติและข้อมูลต่าง ๆจากการจดบันทึกการเทรด ทำให้เทรดเดอร์ขาดความมั่นใจ และไม่สามารถพัฒนาระบบเทรดของตัวเองให้ดีกว่าเดิมได้

8. ไม่จัดการความเสี่ยง / ไม่รู้จักจุดคุ้มทุน

  • เทรดเดอร์ที่เพิ่งเข้ามาในตลาด จะมองแต่ประโยชน์ที่จะได้รับจากตลาดนี้ แต่จะลืมมองผลกระทบที่จะได้รับ ทำให้คนที่เป็นมือใหม่จะลืมการจัดการความเสี่ยง
  • เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ที่พอร์ตแตกจากการเทรด จะมีความผิดพลาดในเรื่องการไม่วางจุดยอมแพ้หรือ Stop loss ไม่มีการจำกัดความเสี่ยงที่ดีมากพอ
  • การไม่รู้จักจุดคุ้มทุนในการเทรด ทำให้การเทรดกลายเป็นเรื่องยาก เทรดเดอร์จะเหนื่อยกับการเทรดเอาทุนคืน มากกว่าการเทรดเพื่อทำกำไรจากตลาด

9. ใช้อารมณ์ในการเทรด

  • เทรดเดอร์ที่ไม่มีแผนการเทรดที่ชัดเจนจะใช้อารมณ์ในการเทรด ซึ่งการใช้อารมณ์ในการเทรดเป็นอันตรายอย่างมาก
  • เมื่อเกิดความโลภ ก็อาจจะทำให้เทรดเยอะเกินจำนวนหรือเทรดจนเกินความเสี่ยงที่รับได้
  • เมื่อเกิดความกลัว ก็อาจจะทำให้ไม่กล้าเทรดถึงแม้ว่ากราฟจะตรงตามเงื่อนไขของแผนเทรดก็ตาม
  • เมื่อเกิดความโกรธ ก็อาจจะทำให้เทรดเพราะอยากได้เงินที่ขาดทุนคืน อยากได้กำไรเพิ่ม
  • เมื่อเกิดความมั่นใจที่มากเกินไป ก็อาจจะทำให้คิดว่าตัวเองเก่ง ไม่ต้องทำตามแผนที่วางเอาไว้ก็ได้
  • สุดท้ายแล้วการเทรดตามอารมณ์ก็มีแต่ผลเสีย ทำให้เทรดเดอร์ไม่สามารถยืนระยะในตลาดได้

10. กระจายสินทรัพย์เทรดเร็วเกินไป

  • การกระจายสินทรัพย์เทรดจะช่วยกระจายความเสี่ยงได้ แต่การที่กระจายสินทรัพย์เร็วเกินไปทำให้ไม่สามารถจับตลาดได้ทัน ไม่รู้พฤติกรรมการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์ซึ่งมีผลต่อประสิทธิภาพของระบบเทรด
  • การกระจายสินทรัพย์การเทรด ทำให้มีสมาธิจดจ่อกับการเทรดไม่มากพอ โดยเฉพาะกับเทรดเดอร์ที่เทรดในระยะสั้น

 

10 หลักการวิเคราะห์ข้อผิดพลาดเพื่อให้การเทรดดีขึ้น

1. ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการเทรด

  • การลงทุนในความรู้มีคุณค่าที่สุด การเทรดก็เช่นเดียวกัน สำหรับคนที่ยังไม่มีประสบการณ์ควรเริ่มจัดการศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการเทรด ไม่ว่าจะเป็นการทำงานของตลาดการเงินไม่ว่าจะเป็น Forex หุ้น หรือ คริปโต เทคนิคในการเทรด เครื่องมือและแพลตฟอร์มในการเทรด ก่อนที่จะเริ่มต้นเทรดด้วยเงินจริง
  • การมีความรู้ที่ดีเกี่ยวกับการเทรด จะทำให้การเทรดของเรามีความก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว และลดข้อผิดพลาดได้มากขึ้น

2. มีแผนการเทรดอยู่เสมอ

  • ก่อนเทรดทุกครั้งควรวางแผนการเทรดเสมอ รู้จุดเข้า รู้จุดออก รู้ถึงความเสี่ยงก่อนที่จะกดเปิด-

ออเดอร์

  • การมีแผนการเทรดช่วยให้โอกาสในการทำกำไรจากตลาดมีมากขึ้น มีโอกาสที่ยืนระยะในตลาดได้นานมากขึ้น และช่วยในการควบคุมอารมณ์ได้

3. เริ่มต้นจากการเทรดบัญชี Demo

  • หากรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง ไม่มั่นใจในแผนการเทรด การเริ่มต้นเหตุในบัญชี Demo  ช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์จุดผิดพลาดของกลยุทธ์ นำมาแก้ไขและปรับปรุง รวมไปถึงข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากตัวเองด้วย

4. เรียนรู้ที่จะเทรดด้วยตัวเอง

  • การเทรดด้วยตัวเอง ไม่ตามซิกแนล ไม่ใช้ EA  ช่วยให้เรารู้จักพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ รู้จักการหาข้อผิดพลาดและแก้ไขให้ดีมากขึ้น
  • การเทรดด้วยตัวเองทำให้เราสามารถวิเคราะห์กราฟได้ และมีความเชื่อมั่นในแผนการเทรดที่ได้สร้างขึ้น

5. จดบันทึกการเทรด

  • การจดบันทึกการเปลี่ยนคือการวิเคราะห์ข้อผิดพลาดที่ดีที่สุด เทรดเดอร์จะได้รู้ถึงสถิติของระบบเทรด  ข้อผิดพลาดที่เกิดจากตัวเอง อารมณ์ที่เกิดขึ้นขณะทำการเทรด
  • ข้อมูลที่อยู่ในบันทึกการเทรด สามารถนำมาปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาการเทรดได้
  • การจดบันทึกการเทรดควรมีข้อมูลที่ละเอียดเพื่อให้สามารถนำมาวิเคราะห์ในแง่มุมต่าง ๆ

6. เทรดให้เหมือนกับการทำธุรกิจ

  • การเทรดเหมือนกับการทำธุรกิจ มีทั้งขาดทุน มีทั้งกำไร มีทั้งเท่าทุน เทรดเดอร์ควรโฟกัสการเทรดให้เติบโตเหมือนกับการทำธุรกิจ แม้ในบางช่วงจะมีการขาดทุนอยู่บ้าง
  • มีการเก็บข้อมูลอย่างเป็นระเบียบแบบแผนในบันทึกการเทรด มีการทดสอบกลยุทธ์ในการทำกำไรอย่างสม่ำเสมอ
  • การเทรดก็ควรมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสภาวะตลาด เหมือนกับธุรกิจที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการทำกำไรไปตามทิศทางของเทรนด์

7. จัดการความเสี่ยงก่อนเทรดทุกครั้ง

  • หากการแพ้เทรดเพียงครั้งเดียวทำให้พอร์ตหายไปเกินกว่า 50%  เทรดเดอร์ควรจัดการความเสี่ยงให้ดีมากขึ้นโดยการลดความเสี่ยง มีการตั้งจุดตัดขาดทุนที่ชัดเจน จุดทำกำไรที่คุ้มทุน
  • การจัดการความเสี่ยงที่ดีควรอยู่ที่ 1-5 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต และควรลดลงตามจำนวนเงินต้นที่ลดลงด้วยเช่นเดียวกัน
  • การทำกำไรควรทำให้มากกว่าขาดทุนในการเทรด 1 ครั้ง มีการตั้ง Risk Reward Ratio ให้เหมาะสม

8. Backtest กลยุทธ์การเทรด

  • การทดสอบกลยุทธ์การเทรดทำให้เราสามารถวิเคราะห์ข้อผิดพลาดของกลยุทธ์ที่สร้างขึ้นมาได้
  • การทดสอบกลยุทธ์การเทรดทำให้เราสามารถปรับปรุงกลยุทธ์ให้ดีขึ้น และมั่นใจในกลยุทธ์การเทรดได้มากขึ้น
  • การทดสอบกลยุทธ์ทำให้เทรดเดอร์โฟกัสที่กระบวนการมากขึ้น เราจะมั่นใจกับการใช้กลยุทธ์ที่ทดสอบมา ไม่หวั่นแม้จะมีโอกาสขาดทุนบ้าง
  • การทดสอบกลยุทธ์ก็ควรใช้งานกับ EA ด้วยเช่นเดียวกัน เพื่อวิเคราะห์ข้อผิดพลาดของระบบและนำมาปรับค่าให้มีความสมดุลมากขึ้น ทำกำไรได้อย่างยั่งยืน

9. เริ่มต้นจาก 1 แล้วค่อยกระจายสินทรัพย์

  • การเทรดหลายสินทรัพย์ช่วยกระจายความเสี่ยงได้ก็จริง แต่ก็ทำให้เทรดเดอร์ต้องทำงานหนักมากขึ้น ไม่สามารถโฟกัสตลาดได้ทัน
  • การเริ่มต้นเทรดเพียง 1 สินทรัพย์ ช่วยเพิ่มโฟกัสให้กับเทรด และเข้าใจตลาดได้อย่างรวดเร็ว ทำให้-
  • เทรดเดอร์สามารถวิเคราะห์ข้อผิดพลาดของตัวเองได้ง่าย ก่อนที่จะเริ่มกระจายไปเทรดหลายสินทรัพย์เพื่อเพิ่มอัตราผลตอบแทนให้มากขึ้น

10. พักการเทรด พักอารมณ์ พักความรู้สึก

  • การเทรดตลอดเวลาทำให้เรานั้นไม่สามารถวิเคราะห์ได้ว่าเรามีจุดบกพร่องใดบ้างแถมยังเพิ่มอารมณ์ความรู้สึกในการเทรดให้มีมากขึ้นอีกด้วย
  • การพักช่วยให้เราผ่อนคลาย ช่วยให้เราเห็นจุดบกพร่องที่เราเคยทำในอดีต ช่วยผ่อนคลายความรู้สึกที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความโกรธ ความโลภ หรือว่าความกลัว
  • การพักช่วยลดข้อผิดพลาดในเรื่องของการเทรดด้วยอารมณ์ได้เป็นอย่างดี